นิทานเรื่อง
พระภาคิไนยเผลอสติตีหัวลุง
๐ มีนิทานนานสุดครั้งพุทธกาล เป็นนิทานเรื่องจริงทุกสิ่งศรี
พระภาคิไนยเป็นหลานอาจารย์ดี กลับมาตีหัวลุงเพราะยุ่งใจ
เมื่อครั้งพระพุทธองค์ทรงสุขสันต์ ณ เชตวันอันผ่องใส
ณ กรุงสาวัตถีธานีใน พระสังฆรักขิตได้ผนวชตน
สำเร็จพระอรหันต์ตัดกิเลส ได้ครองเพศอรหันปัตติผล
จำพรรษาอยู่นิเวศเชตุพน ทั้วทุกคนรู้จักพระนักพรต
ส่วนน้องชายมีบุตรสุดที่รัก ก็รู้จักเรียนธรรมรู้กรรมกฎ
สอนให้บุตรรู้ธรรมอันงามงด ถึงกำหนดวันพระไม่ละเว้น
พาบุตรมาหาลุงใจมุ่งหมาย ให้บุตรชายเข้าผนวชบวชเป็นเถร
ลูกชายจึงได้บวชผนวชเณร แล้วบวชเป็นพระสงฆ์ด้วยจงใจ
แล้วหลีกไปภาวนายังป่าชัฎ ซึ่งเป็นวัดเล็กน้อยไม่ค่อยใหญ่
เมื่อถึงคราวออกพรรษาได้ผ้าไตร สองผืนใหญ่ขาวผ่องยาวสองวา
อีกผืนหนึ่งยาวเสร็จสักเจ็ดศอก จึงเอาออกย้อมคร่ำน้ำกาสาว์
ครุ่่นคิดถึงหลวงลุงจึงมุ่งมา ถวายผ้าผืนยาวให้เฒ่าลุง
เมื่อพบหนาหลวงลุงจึงมุ่งเข้า เข้าล้างเท้าให้สะอาดใจมาดมุ่ง
จัดน้ำดื่มมาถวายหมายบำรุง ถือใบพัดปัดยุงให้เย็นใจ
แล้วหยิบผ้ากาสาว์มาถวาย โดยมุ่งหมายกตัญญูต่อผู้ใหญ่
ลุงตอบว่าข้านี้ก็มีใช้ เธอเอาไว้ใช้ผ้าของข้ามี
ส่วนพระภาคิเนยก็เลยเก้อ ทำหน้าเป๋อเซ่ออยู่ไม่รู้ที่
เสียแรงเอามาถวายถึงร้ายดี หลวงลุงชีใหญ่กลับไม่รับไว้
หลวงลุงคงรังเกียจคิดเดียดฉันท์ ไม่ผูกพันพิศวาสญาติในไส้
เราสึกเสียดีกว่าน่าอายใจ เอาผ้าไปขายหาเงินตรามี
เอาเงินซื้อแม่แพะนั่นแหละถูก พอตกลูกขายเล่นเป็นเศรษฐี
เราจะได้แต่งงานเสียทันที ไม่กี่ปีมีลูกใจผูกพัน
เราจะพาลูกยาภรรยาสาว มากราบเท้าหลวงลุุงใจมุ่งมั่น
ขึ้นขี่เกวียนนั่งขับมาฉันพลัน เมียเรานั้นเผลอไผลไม่แลดุ
ปล่อยให้ลูกพลัดตกหกผลุบผลับ ถูกเกวียนทุับจนตายใจหดหู่
เอาประตักตีเมี่ยเสียให้รู้ ฟาดหัวหูให้นึกรู้สึกตัว
พลางก็เอาใบพัดขึ้นกวัดไกว ฟาดลงไปทันทีถูกที่หัว
ถูกหัวลุุงทันทีเหมือนตีวัว ตกใจกลัวบาปที่ไปตีลุง
พระสังฆรักขิตพูดติดตลก ตึภรรยามาหยกหยกแล้วยังยุ่ง
ตีผิดตัมาตลบจะตบยุง มาตีลุงด้วยโทษโกรธอะไร
พระภาคิเนยทิงพัดวิ่งลัดทุ่ง จะหนีลุงให้พ้นไปจนได้
หมู่พระเณรวิ่งจับโดยฉับไว พาเอาไปเฝ้าพระตถาคต
พระพุทธองค์ทรงแจ้งแทงตลอด รู้ใจยอดเถรถวิลจนสิ้นหมด
จึงตรัสว่าปล่อยจิตให้คิดคด เที่ยวเลี้ยวลดดั้นด้นไม่พ้นมาร
หมั่นระวังดวงจิตคอยติดตาม ดั่งหนึ่งล่ามม้าวไ้มิให้พล่าน
ผู้รักษาจิตล่วงพ้นบ่างมาร จึงสำราญสูโขเป็นโสดา
มาบวชในธรรมวินัยต้องใฝ่ฝัน โสดาบันมุ่งมาดปรารถนา
จนถึงพระอรหันต์อนันตา เพราะอุตส่าห์พากเพียรเล่าเรียนธรรม
อันลูกพระตถาคตหมดมานะ อุตสาหะเวียนวกจิตตกต่ำ
เป็นโมฆะบุรุษเปล่าคนเจ้ากรรม เธออย่าทำผิดซ้ำหมั่นบำเพ็ญ (๔๒ คำ)
๑๓ มกราคม ๒๕๓๓
เราสึกเสียดีกว่าน่าอายใจ เอาผ้าไปขายหาเงินตรามี
เอาเงินซื้อแม่แพะนั่นแหละถูก พอตกลูกขายเล่นเป็นเศรษฐี
เราจะได้แต่งงานเสียทันที ไม่กี่ปีมีลูกใจผูกพัน
เราจะพาลูกยาภรรยาสาว มากราบเท้าหลวงลุุงใจมุ่งมั่น
ขึ้นขี่เกวียนนั่งขับมาฉันพลัน เมียเรานั้นเผลอไผลไม่แลดุ
ปล่อยให้ลูกพลัดตกหกผลุบผลับ ถูกเกวียนทุับจนตายใจหดหู่
เอาประตักตีเมี่ยเสียให้รู้ ฟาดหัวหูให้นึกรู้สึกตัว
พลางก็เอาใบพัดขึ้นกวัดไกว ฟาดลงไปทันทีถูกที่หัว
ถูกหัวลุุงทันทีเหมือนตีวัว ตกใจกลัวบาปที่ไปตีลุง
พระสังฆรักขิตพูดติดตลก ตึภรรยามาหยกหยกแล้วยังยุ่ง
ตีผิดตัมาตลบจะตบยุง มาตีลุงด้วยโทษโกรธอะไร
พระภาคิเนยทิงพัดวิ่งลัดทุ่ง จะหนีลุงให้พ้นไปจนได้
หมู่พระเณรวิ่งจับโดยฉับไว พาเอาไปเฝ้าพระตถาคต
พระพุทธองค์ทรงแจ้งแทงตลอด รู้ใจยอดเถรถวิลจนสิ้นหมด
จึงตรัสว่าปล่อยจิตให้คิดคด เที่ยวเลี้ยวลดดั้นด้นไม่พ้นมาร
หมั่นระวังดวงจิตคอยติดตาม ดั่งหนึ่งล่ามม้าวไ้มิให้พล่าน
ผู้รักษาจิตล่วงพ้นบ่างมาร จึงสำราญสูโขเป็นโสดา
มาบวชในธรรมวินัยต้องใฝ่ฝัน โสดาบันมุ่งมาดปรารถนา
จนถึงพระอรหันต์อนันตา เพราะอุตส่าห์พากเพียรเล่าเรียนธรรม
อันลูกพระตถาคตหมดมานะ อุตสาหะเวียนวกจิตตกต่ำ
เป็นโมฆะบุรุษเปล่าคนเจ้ากรรม เธออย่าทำผิดซ้ำหมั่นบำเพ็ญ (๔๒ คำ)
๑๓ มกราคม ๒๕๓๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น