๕. นิทานเรื่อง ปฎาจาราเถรีอรหันต์
เมื่อพระพุทธองค์ยังทรงกาย อภิปรายเทศนาประชาชน
คร้ังน้ันในพาราสาวัตถี ว่ายังมีตระกูลอันพูนผล
เป็นตระกูลเศรษฐีมั่งมีล้น ลูกสาวคนหนึ่งด้วยแสนสวยงาม
ท่านเศรษฐีหวงแหนแสนสวาท จึงสั่งขาดชายปวงคอยหวงห้าม
ใครมาสู่ขอห่อนบ่ผ่อนตาม เพราะเห็นทรามยิ่งกว่าธิดาตน
สาวปฎาจาริกธิดารัก จึงถูกกักขังเร้นไม่เห็นหน
อยู่ปราสาทเรือนยอดที่ปลอดคน อยู่ชั้นบนเรือนยอดตลอดมา
มิได้พบชายอื่นดาษดื่นพักตร์ จึงลอบรักเล่นสวาทกับทาสข้า
จนต้ังครรภ์ขึ้นป่องมีท้องมา จึงลอบพากันหนีหลบลี้ไป
คร้ันเมื่อครรภ์โตใหญ่จะใกล้คลอด กลัวไม่ปลอดภัยครันนึกหวั่นไหว
จึงรีบหนึผัวตนเดินด้นไพร จะกลับไปคลอดบ้านมารดาตน
มาคลอดลูกอยู่กลางระหว่างไพร มิทันได้ถึงบ้านสถานต้น
ผัวก็ตามมารับกลับบันดล เพราะความจนไม่กล้าบากหน้าไป
ครบหนึ่งปีต่อมาธิดาเศรษฐี ก็กลับมีครรภ์ตั้งขึ้นครั้งใหม่
อ้อนวอนสามีทาสแทบขาดใจ ก็มิได้กลับบ้านหามารดา
จึงหลบลี้หนีพรากจากสามี เข้าพงพีเดินไพรอยู่ในป่า
ก็คลอดบุตรสุดใจในพนา เมื่อฝนฟ้าตกใหญ่น้ำไหลพรู
สามีมาตามพลางในกลางฝน เห็นเมียตนเปียกน้ำชุ่มฉ่่ำอยู่
อุ้มลูกน้อยกกบุตรอยุู่คุดคู้ ก็ไม่รู้ป้องกันประการใด
จึงไปตัดไม้พุ่มมาคลุมให้ อันอยู่ใกล้ดินพลวกจอมปลวกใหญ่
ถูกงูเห่าฉกพลันเข้าทันใด นอนสิ้นใจมรณาในป่าบน
นางอุ้มลูกเดินด้นเที่ยวค้นหา จนพบสามีตายในป่าต้น
ตัดกิ่งไม้ปกกายาสามีตน ลูกสองคนค่อยอุ้มเดินดุ่มไป
อุ้มลูกคนจูงคนเดินด้นป่า ดินน้ำตานองหน้าในป่าใหญ่
มุ่งไปเมืองสาวัตถึธานีไกล ลำธารไหลเชี่ยวขวาางหนทางจร
จึงบอกลูกคนใหญ่พึ่งได้ปี ลูกอยู่ที่นี่่แน่คอยแม่ก่อน
เดี๋ยวแม่มารับไปอย่าใจร้อน แม่จะอุ้มลูกอ่อนไปกอ่นนะ
บอกให้ลุกคอยนั่งอยู่ฝั่งนี้ อย่าลุยลงวารีร้องเอะอะ
แล้วลุยน้ำข้ามท่ามีมานะ ประเดี๋ยวจะมาหาใส่บ่าไป
อุ้มลูกน้อยลอยคอไปพอพ้น ปล่อยลุูกตนลงวางบนฝั่งได้
รีบลงน้ำมารับลูกฉับไว แล้วเหลียวไปยังฝั่งหันหลังมา
เห็นเหยี่ยวใหญ่โฉบเฉี่ยวเสียวที่สุด มันเฉี่ยวบุตรบนฝั่งร้องดังจ้า
จึงโบกมือร้องไล่อยู่ไปมา อยู่กึ่งกลางธาราที่ไหลแรง
ลูกคนโตโผล่ลุกขึ้นกุกกัก ว่าแม่กวักให้ไปมิได้แหนง
เดินลงน้ำหายไปในกลางแปลง สุดวัดแว้งจับบุตรเป็นสุดคิด
ส่วนลูกอ่อนเหยี่ยวใหญ่โฉบไปลับ ทบเป็นลมล้มทับลงดับจิต
เป็นโชคร้ายสุดที่ในชีวิต แทบหมดฤทธิ์แทบตายทรงกายเดิน
คิดไปหาพ่อแม่พอแก้โศก เกิดมาโชคร้ายเท่าภูเขาเขิน
พบผู้คนในระหว่างทางดำเนิน จึงกล่าวเอินถามหามารดาตน
คนเขาบอกข่าวร้ายแทบตายดับ ได้ฟังกับหูชาคาถนน
วา่เศรษฐีท่านตายพึ่งวายชนม์ เพราะลมบนพัดพาปราสาทพัง
ทับท่านเศรษฐีตายวายชีวา พร้อมภรรยาข้าทาสปราสาทหลัง
เขาเผาไปสักครู่ไม่อยู่ยัง ควันกำลังพวยพุ่งสูงสู่ฟ้า
ปฎาจาราแลดูก็รู้นั่น แลเห็นควันพวยพุ่งสูงหนักหนา
นางก็สิ้นลมประดีในชีวา กลายเป็นบ้าผ้าผ่อนล่อนจ้อนกาย
พระพุทธองค์ทรงเทศน์ ณ เชตวัน พระก็พลันเห็นรอบในขอบข่าย
แจ้งในทศพลญาณอันพรรณราย พระจึงฉายรังสีมาที่นาง
นำหน้าตรงเข้าไปในเชตุพน จนผู้คนตกใจไปต่างต่าง
เห็นคนบ้าแก้ผ้าเข้ามาพลาง จึงกั้นกางขับไล่ไปให้พ้น
พระพุทธองค์ทรงห้ามตรัสปรามว่า ปล่อยให้เขาเข้ามาสถาผล
"น้องจงได้สติดำริตน" พระทศพลตรัสสั่งจึงนั่งลง
เนรมิตผืนผ้าส่งมาให้ นางจึงได้นุ่งห่มสมประสงค์
นางจึงก้มลงราบกราบพระองค์ ใจมั่นคงปากพร่ำแต่รำพัน
"ข้าแต่พระนาโถของโลกา พระจงมาเป็นที่พึ่งของหม่อมฉัน
ลูกคนหนึ่งเหยี่ยวคาบไปฉับพลัน อีกคนหนึ่งจมหายในสายธาร
สามีถูกงูกัดตายพลัดพราก พ่อแม่หายตายจากเพราะลมผลาญ
ทั้งพี่ชายก็ตายถึงวายปราณ หม่อมฉันลาญแหลกสิ้นชีวินแล้ว
พระพุทธองค์ทรงฟังตรัสสั่งว่า "เธอจงอย่าเศร้าหมองเลยน้องแก้ว
เธอได้พบที่พึ่งอันหนึ่งแล้ว จงผ่องแผ้วเถิดอย่าโศกาลัย
ในวัฎสงสารยาวนานนี้ น้ำตาที่ตกดินเพราะรินไหล
ถึงคนรักมีมากที่่จากไป รวมกันได้มากกว่าน้ำสาคร"
เมื่อเห็นนางหยุดสะอื้นแช่มชื่นหน้า สร่างโศกาอาลัยลงได้ก่อน
พระบรมโลกนาถประสาทพร จึงตรัสสอนสัจธรรมน้อมนำใจ
"ว่าดูก่อนน้องหญิงเป็นสิ่งสัตย์ พญามัจจุุราชฉกาจใหญ่
จะกลืนชีพหญิงชายให้ตายไป ไม่มีใครขืนขัดเข้าทัดทาน
บุตรธิดาสามีภริยา บิดามารดาญาติมิอาจหาญ
คนฉลาดทราบชัดสัจการ จีงรักษาศีลทานทุกวารวัน
เพื่อแผ้วถาวหนทางไปข้างหน้า เพื่อมุ่งหน้าสู่สถานนิพพานนั่น
รีบเดินทางสายกลางอย่างเร็วพลัน โสมนัสฉ่ำในหัวใจหญิง
สำเร็จโสดาไปไม่ประวิง ได้พึ่งพิงพุทธองค์ผู้ทรงยศ
พระพุทธองค์ทรงแจ้งแทงตลอด ว่าเธอรอดตัวตามที่กำหนด
จึงให้บวชสวดกรรมกระทำพรต ได้ธรรมรสเป็นชั้นอรหันตา
เพราะชาติก่อนย้อนไปในอดึต ในจารึตปทุุมมุตรศาสนา
เธอเห็นพระภิกษุณีผู้ปรีชา จึงปรารถนาอยากเป็นเหมือนเช่นน้้น
จึงพระปทุมมุตรพุทธศาสนา ทรงพยากรณ์แน่ไม่แปรผัน
จักสำเร็จเสร็จสมอารมณ์พลัน ได้เกิดทันพระโคดมบรมครุู
มีนามโด่งดังไกลใครย่อมรู้ เคยมีคู่ชั้นทาสอนาถใจ
เมื่อลุกตายผัวตายวายชีวาตม์ ใจจะขาดแทบว่าเป็นบ้าใบ้
แต่บุญเก่าเคยสร้างปางก่อนไกล พระจึงไปสูงลิบถึงนิพพาน ฯ (๘๑ คำ)
๑๗ ธันวาคม ๒๕๓๒
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น