๖. นิทานเรื่่อง ไม่คบคนพาล
๐ มีนิทานชาดกท่านยกมา พระศาสดาทรงเล่าแก่เหล่าสงฆ์
ว่าคร้ังหนึ่งนานสุดพระพุทธองค์ เกิดในวงศ์เศรษฐีมั่งมีทรัพย์
เกิดเบื่อหน่ายในทรัพย์ที่คับคั่ง เหมือนคอกขังโคควายจนตายดับ
เหมือนตลุงผูกคลาจนคาคับ มิได้รับเสรีภาพตราบเดือนปี
มิช้าคนกล่นเกลื่่อนก็เหมือนสัตว์ เขาจับมัดคอกไม่ออกหนี
มีทรัพย์สินมากครันอัญมณี ก็เหมือนขี้ช้างม้าจะว่าไป
จึงร่ำลาบิดามารดาบวช ไปนั่งสวดภาวนาในป่าใหญ่
เข้าบวชเป็นฤาษีพระชีไพร ไม่สนใจโลกีย์ทุกวี่วัน
เรียกอกิตตติดาบสถือพรตพราหมณ์ อยู่เขตคามพาราณีบุรีสันติ์
ฉันแต่ผักพืชไม้ในไพรวัน อาหารนั้นเลือกเอาหมากเม่าไพร
เก็บเอาใบเหลืองหล่นจากต้นแก่ ต้มเอาแต่น้ำคั้นพอฉันได้
วันหนึ่งมีพราหมณ์ป่าชราวัย เดินเข้าไปขอกินหมดสิ้นเอย
พระอกิตติดาบสต้องอดฉัน ไม่ไหวหวั่นนั่งดูอยู่เฉยเฉย
พระอินทร์ส่องเนตรนิยมนึกชมเชย จึงมาเผยองค์เล่นให้เห็นองค์
ถามว่าท่านอยากได้สิ่งใดบ้าง ให้ขอมาห้าอยางตามประสงค์
จะประสิทธิ์ให้ตามความจำนง ขอท่านจงบอกมาห้าประการ
พระอกิตติดาบสเผยพจน์ว่า หนึ่งขออย่าพบพาลผจญผลาญ
สองอย่าได้ยินเสียงสำเนียงพาล สามอยางอยู่ร่วมสถานกับพาลชน
สี่อย่าพูดจาปราศรัยกับไพร่พาล ห้าอย่าหลงลมหวานคนพาลพ่น
เราขอพรห้าสิ่งสัจจริงล้น ไม่มากพ้นเกินไปจงให้เรา
พระอินทร์ว่าเหตุไฉนไม่ขออื่น คงขมขื่นคนพาลสันดานเขลา
ดาบสว่าเรารู้ไม่ดูเบา ไปคบเขาคนพาลรำคาญใจ
หนึ่งพาลนี้หนาปัญญาทราม สองพูดความชั่วหยาบเป็นบาปใหญ่
สามแนะนำทางชั่วทรามให้ตามไป สี่ไม่มีศีลในหัวใจตน
ห้าเราแนะนำดีไมมีฟัง หกเราสั่งสอนโปรดก็โกรธให้
ถึงเราจะอยู่เดียวเปล่าเปลี่ยวใจ ก็อย่าได้พบพาลสันดานทราม
พระอินทร์ฟังวาจาพระดาบส น้อมประณตเวียนจบคำรบสาม
แล้วลอยลิ่วปลิวฟ้าสง่างาม อวยพรตามดาบสพร่ำพจน์วอน
พระอกิตติฤาษีพระชีป่า กลับชาติมาเป็นพระเวสันดรก่อน
พราหมณ์ชราในป่าพนาดร กลับชาติย้อนมาอยู่เป็นชูชก
ชาตินี้กลับมาเป็นเถรเทวทัต ลูกกษัตริย์ไร้ธรรมจึงต่ำตก
สืบสันดานพาลชนเวียนวนวก ตกนรกเพราะตนเป็นคนพาล ฯ (๓๒ คำ)
๑๙ ธันวาคม ๒๕๓๒
เก็บเอาใบเหลืองหล่นจากต้นแก่ ต้มเอาแต่น้ำคั้นพอฉันได้
วันหนึ่งมีพราหมณ์ป่าชราวัย เดินเข้าไปขอกินหมดสิ้นเอย
พระอกิตติดาบสต้องอดฉัน ไม่ไหวหวั่นนั่งดูอยู่เฉยเฉย
พระอินทร์ส่องเนตรนิยมนึกชมเชย จึงมาเผยองค์เล่นให้เห็นองค์
ถามว่าท่านอยากได้สิ่งใดบ้าง ให้ขอมาห้าอยางตามประสงค์
จะประสิทธิ์ให้ตามความจำนง ขอท่านจงบอกมาห้าประการ
พระอกิตติดาบสเผยพจน์ว่า หนึ่งขออย่าพบพาลผจญผลาญ
สองอย่าได้ยินเสียงสำเนียงพาล สามอยางอยู่ร่วมสถานกับพาลชน
สี่อย่าพูดจาปราศรัยกับไพร่พาล ห้าอย่าหลงลมหวานคนพาลพ่น
เราขอพรห้าสิ่งสัจจริงล้น ไม่มากพ้นเกินไปจงให้เรา
พระอินทร์ว่าเหตุไฉนไม่ขออื่น คงขมขื่นคนพาลสันดานเขลา
ดาบสว่าเรารู้ไม่ดูเบา ไปคบเขาคนพาลรำคาญใจ
หนึ่งพาลนี้หนาปัญญาทราม สองพูดความชั่วหยาบเป็นบาปใหญ่
สามแนะนำทางชั่วทรามให้ตามไป สี่ไม่มีศีลในหัวใจตน
ห้าเราแนะนำดีไมมีฟัง หกเราสั่งสอนโปรดก็โกรธให้
ถึงเราจะอยู่เดียวเปล่าเปลี่ยวใจ ก็อย่าได้พบพาลสันดานทราม
พระอินทร์ฟังวาจาพระดาบส น้อมประณตเวียนจบคำรบสาม
แล้วลอยลิ่วปลิวฟ้าสง่างาม อวยพรตามดาบสพร่ำพจน์วอน
พระอกิตติฤาษีพระชีป่า กลับชาติมาเป็นพระเวสันดรก่อน
พราหมณ์ชราในป่าพนาดร กลับชาติย้อนมาอยู่เป็นชูชก
ชาตินี้กลับมาเป็นเถรเทวทัต ลูกกษัตริย์ไร้ธรรมจึงต่ำตก
สืบสันดานพาลชนเวียนวนวก ตกนรกเพราะตนเป็นคนพาล ฯ (๓๒ คำ)
๑๙ ธันวาคม ๒๕๓๒
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น