๑๑ นิทาน
เรื่อง ช้างนาฬาคีรี
๐ มีนิทานนานสุดคร้ังพุทธกาล เป็นนิทานสัจจริงที่สิ่งสรรพ์
เมื่อเจ้าชายเทวทัตกษัตริย์สำคัญ อันเป็นชั่้นพี่ภรรยาตถาคต
เข้ามาบวชในพระศาสนา พร้อมเจ้าชายฝ่ายหน้านามปรากฎ
อนุรุทธเลิศล้ำกระทำพรต อานนท์ยศลือชาโสดาบัน
เทวทัตชำนาญชาญโลกีย์ มีฤทธีเหาะเหินเดินสวรรค์
อยากเป็นใหญ่ในสงฆ์เป็นสำคัญ คบคิดกันกับกษัตริย์ชาตศัตรู
เอานายขมังธนูผุ้แม่นปืน เข้ามายืนยิงหมดก็อดสู
เข้ามากราบราบดินสิ้นประตุ แพ้พระผู้มีพระภาคไม่อยากคบ
แต่ไม่ละความเพียรเวียนไปหา เอาช้างงาเหยียบเล่นให้เป็นศพ
ไปจ้างควาญช้างองค์พระทรงภพ เข้าประจบเข้าจ้างควาญช้างทรง
ให้กรอกเหล้าเมามายต้ังหลายไห ปล่อยช้างใหญ่แล่นตามความประสงค์
ในตอนเช้าอรุณเรื่อเมื่อพระองค์ เสด็จทรงโปรดสัตว์เป็นอัตตา
พระพุทธองค์ทรงทราบแผนหยาบร้าย ทรงมั่นหมายโปรดสัตว์มีวาสนา
จึงเสด็จบิณฑบาตเดินยาตรา เดินนำหน้าสาวกมิตกใจ
นาฬาคีรีกินเหล้าจนเมามาย จนตาลายแล่นมาหาช้าไม่
จะเข้าแทงพระองค์ผุ้ทรง จนใครใครเห็นร้องเสียงก้องดัง
พระอานนท์วิ่งวางออกขวางหน้า ยอมถวายชีวาเหมือนดังหวัง
พระพุทธองค์ทรงคว้ากาสารั้ง เอาองค์บังขวางหน้าพระอานนท์
นาฬาคีรีแล่นรี่ปรี่เข้าหา พระตถาคตหยุดวิมุตติผล
นาฬาคีรีก็หยุดลงทรุดตน น้อมประณตพระทศพลด้วยงวงงา
พระตถาคตต้องตระพองช้าง จับงวงพลางด้วยหัตถ์แล้วตรัสว่า
เจ้าเป็นสัตว์แสนโง่เติบโตมา ยังจะฆ่าอรหันต์อนันตกรรม
เจ้าเลื่อมใสศรัทธาตถาคต คุกเข่าลดงวงงาลงมาต่ำ
จะสิ้นชาติเดรัจฉานผ่านบาปกรรม บุญจะนำส่งเกิดกำเนิดตน
จะเวียนเกิดเวียนตายอีกหลายชาติ ได้พบศาสนาพุุทธวิสุทธิผล
ชาติสุดท้ายได้พบพระทศพล จะหลุดพ้นเป็นพระโพธิญาณ
ตรัสจบตบตระพองช้างร้องไห้ เอางวงจับบาทไว้สุดไขขาน
ใจจงรักพระพุทธสุดประมาณ ส่งเสียงร้องก้องบ้านสะท้านเมือง
ฝูงชนมาทัศนาพระยาช้าง ที่ร้องครางศรัทธาในผ้าเหลือง
เอากล้วยอ้อยเงินตรามาเนืองเนือง ไม่กลัวเปลืองบูชาพระยาช้าง
จึงเรียกช้างธนบาลในกาลน้ัน ครั้นดับขันธ์ด้วยบุญที่หนุนสร้าง
ได้เวียนเกิดเวียนตายมาหลายปาง มาเกิดทางกรุงศรีอยุธยา
ได้เป็นพันท้ายเรือเจ้าเหนือหัว ถวายตัวเที่ยวเฟื้่องตามเมืองท่า
ตามเสด็จชมนกและตกปลา จนถึงสาครบุรีที่สำคัญ
ถึงโคกขามคลองขดแสนลดเลี้ยว คัดท้ายเคี้ยวคดไปมิได้พรั่น
จนถึงคุ้งคดเคี้ยวเลี้่ยวไม่ทัน โขนเรือนั้นชนตะเคียนจนเศียรพัง
เศียรหงส์หักปักเฉนียนตะเคียนใหญ่ โขนหักไปเรือจอดเข้าทอดฝั่ง
พันท้ายผู้ภักดีสุดชีวัง โดดขึ้นยังฝั่งน้ำกระทำการ
กราบถวายบังคมบรมกษัตริย์ จงโปรดตัดเศียรเกล้าเข้าประหาร
ตามกำหนดบทพระอัยการ ผู้อยู่งานถือท้ายนายนาวา
หากประมาทพลาดพลั้งโดยต้ังใจ กระทำให้เรือที่น่ั่งชนฝั่งฝา
โขนเรือหักปักหล่นบนสุธา ท่านให้ฆ่านายท้ายให้วายปราณ
ให้เอาโขนเรือองค์พระทรงศักดิ์ ขึ้นมาปักบนฝั่งแล้วต้ังศาล
เอาหัวนายท้ายเรือเซ่นจีงเป็นการ ตามโบราณประเพณีอันมีมา
ฝ่ายพระพุทธเจ้าเสือเหลือสงสาร พระโปรดปรานนายท้ายชายใจกล้า
ตรัสสั่งให้ปั้นดินถิ่นธารา แทนกายานายท้ายเท่ากายคน
ตรัสสั่งให้เพชฌฆาตฉกาจกล้า ตัดเกศานายท้ายฝ่ายเรือต้น
เพชฌฆาตฟาดฟันในบัดดล หัวก็หล่นลงดินดั่งสิ้นใจ
แต่นายท้ายนรสิงห์หมอบนิ่งอยุ่ ไม่ลงสู่เรือทรงพระองค์ใหม่
กราบทุลว่านายท้ายไม่ตายไป โปรดฆ่าให้นายท้ายตายจริงจริง
พระเจ้าเสือตรัสว่ากูฆ่าแล้ว หัวหล่นแผล็วนั่นคือชื่อไอ้สิงห์
มึงเร่งลงเรือมาอย่าประวิง เดี๋ยวกุทิ้งมึงไว้ในไพรวัน
พันท้ายว่่าโปรดรักษาประเพณี อันเคยมีแต่กาลโบราณนั่น
อันชีวิตข้าไซร้ไม่สำคัญ ขอจงบั่นเกศาข้าพระองค์
ขอถวายชีพไว้ใต้พระบาท เพื่อพระราชกฤษดาอันสูงส่ง
เพื่อนายท้ายภายหลังตั้งใจจง จะซื่อตรงจงรักและภักดี
พระเจ้าเสือจึงสั่งให้ตั้งศาล ให้ประหารนรสิงห์รักศักดิ์ศรี
เอาหัวโขนหัวคนขึืนบัดพลี แก่เจ้าที่เจ้าทางนางตะเคียน ฯ
เรื่องนี้ท่านนิพนธ์เป็นมนตรา เป็นคาถาชัยมงคลนิพนธ์เขียน
เป็นมนตราธิษฐานนานจำเนียร ให้เราเพียรภาวนาสาธยาย
อ้างเอาพระพุทธคุณมาหนุนจิต เพื่อพิชิตชนะพาลมารทั้งหลาย
เรียกพาหุงแปดบทบรรยาย ภยันตรายผ่านพ้นด้วยมนตรา ฯ (๖๒ คำ)
๒๖ ธันวาคม ๒๕๓๓
จะสิ้นชาติเดรัจฉานผ่านบาปกรรม บุญจะนำส่งเกิดกำเนิดตน
จะเวียนเกิดเวียนตายอีกหลายชาติ ได้พบศาสนาพุุทธวิสุทธิผล
ชาติสุดท้ายได้พบพระทศพล จะหลุดพ้นเป็นพระโพธิญาณ
ตรัสจบตบตระพองช้างร้องไห้ เอางวงจับบาทไว้สุดไขขาน
ใจจงรักพระพุทธสุดประมาณ ส่งเสียงร้องก้องบ้านสะท้านเมือง
ฝูงชนมาทัศนาพระยาช้าง ที่ร้องครางศรัทธาในผ้าเหลือง
เอากล้วยอ้อยเงินตรามาเนืองเนือง ไม่กลัวเปลืองบูชาพระยาช้าง
จึงเรียกช้างธนบาลในกาลน้ัน ครั้นดับขันธ์ด้วยบุญที่หนุนสร้าง
ได้เวียนเกิดเวียนตายมาหลายปาง มาเกิดทางกรุงศรีอยุธยา
ได้เป็นพันท้ายเรือเจ้าเหนือหัว ถวายตัวเที่ยวเฟื้่องตามเมืองท่า
ตามเสด็จชมนกและตกปลา จนถึงสาครบุรีที่สำคัญ
ถึงโคกขามคลองขดแสนลดเลี้ยว คัดท้ายเคี้ยวคดไปมิได้พรั่น
จนถึงคุ้งคดเคี้ยวเลี้่ยวไม่ทัน โขนเรือนั้นชนตะเคียนจนเศียรพัง
เศียรหงส์หักปักเฉนียนตะเคียนใหญ่ โขนหักไปเรือจอดเข้าทอดฝั่ง
พันท้ายผู้ภักดีสุดชีวัง โดดขึ้นยังฝั่งน้ำกระทำการ
กราบถวายบังคมบรมกษัตริย์ จงโปรดตัดเศียรเกล้าเข้าประหาร
ตามกำหนดบทพระอัยการ ผู้อยู่งานถือท้ายนายนาวา
หากประมาทพลาดพลั้งโดยต้ังใจ กระทำให้เรือที่น่ั่งชนฝั่งฝา
โขนเรือหักปักหล่นบนสุธา ท่านให้ฆ่านายท้ายให้วายปราณ
ให้เอาโขนเรือองค์พระทรงศักดิ์ ขึ้นมาปักบนฝั่งแล้วต้ังศาล
เอาหัวนายท้ายเรือเซ่นจีงเป็นการ ตามโบราณประเพณีอันมีมา
ฝ่ายพระพุทธเจ้าเสือเหลือสงสาร พระโปรดปรานนายท้ายชายใจกล้า
ตรัสสั่งให้ปั้นดินถิ่นธารา แทนกายานายท้ายเท่ากายคน
ตรัสสั่งให้เพชฌฆาตฉกาจกล้า ตัดเกศานายท้ายฝ่ายเรือต้น
เพชฌฆาตฟาดฟันในบัดดล หัวก็หล่นลงดินดั่งสิ้นใจ
แต่นายท้ายนรสิงห์หมอบนิ่งอยุ่ ไม่ลงสู่เรือทรงพระองค์ใหม่
กราบทุลว่านายท้ายไม่ตายไป โปรดฆ่าให้นายท้ายตายจริงจริง
พระเจ้าเสือตรัสว่ากูฆ่าแล้ว หัวหล่นแผล็วนั่นคือชื่อไอ้สิงห์
มึงเร่งลงเรือมาอย่าประวิง เดี๋ยวกุทิ้งมึงไว้ในไพรวัน
พันท้ายว่่าโปรดรักษาประเพณี อันเคยมีแต่กาลโบราณนั่น
อันชีวิตข้าไซร้ไม่สำคัญ ขอจงบั่นเกศาข้าพระองค์
ขอถวายชีพไว้ใต้พระบาท เพื่อพระราชกฤษดาอันสูงส่ง
เพื่อนายท้ายภายหลังตั้งใจจง จะซื่อตรงจงรักและภักดี
พระเจ้าเสือจึงสั่งให้ตั้งศาล ให้ประหารนรสิงห์รักศักดิ์ศรี
เอาหัวโขนหัวคนขึืนบัดพลี แก่เจ้าที่เจ้าทางนางตะเคียน ฯ
เรื่องนี้ท่านนิพนธ์เป็นมนตรา เป็นคาถาชัยมงคลนิพนธ์เขียน
เป็นมนตราธิษฐานนานจำเนียร ให้เราเพียรภาวนาสาธยาย
อ้างเอาพระพุทธคุณมาหนุนจิต เพื่อพิชิตชนะพาลมารทั้งหลาย
เรียกพาหุงแปดบทบรรยาย ภยันตรายผ่านพ้นด้วยมนตรา ฯ (๖๒ คำ)
๒๖ ธันวาคม ๒๕๓๓
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น