๑๔ นิทาน
เรื่อง อานันทเศรษฐีเกิดเป็นคนขอทาน
๐ มีนิทานนานสุดครั้งพุทธกาล เป็นนิทานเรื่องจริงทุกสิ่งสัตย์
ในเมืองสาวัตถีบุรีรัตน์ มีสารพัดไพร่ผู้ดีเศรษฐีดัง
มีพ้อค้าบกเรือเชื้อกษัตริย์ มีคนขัดขี้ทูตพวกกุูฎฐัง
อานันทเศรษฐีมีชื่อเสียงลือจัง เงินในคลังไม่น้อยแปดร้อยล้าน
แต่ตระหนีถี่เหนียวเด็ดเดี่ยวเหลือ ไ่ม่เอื้อแก่ใครใครนอกในบ้าน
ไม่่บริจาคเจือจุนการบุญทาน กมลสันดานเด็ดเดี่ยวไม่เหลียวแล
มีบุตรชายคนเดียวคอยเคี้ยวเข็ญ ให้บุตรเป็นเช่นตนมาจนแก่
บุตรชื่อมูลสิริสิยังแพ้ เหมือนพ่อแต่ยังน้อยไม่ค่อยงก
เมื่ออานันทเศรษฐีสิ้นชีวิต จึงมีสิทธิ์รับต่อมรดก
ปกครองทรัพย์ต่อมาเป็นทายก ทรัพย์สินบกพร้องไปมิใคร่รบ
วันหนึ่งพระพุทธองค์ทรงสอดส่อง เพ่งฌานมองตรวจไปใคร่ประสบ
ใครมีบุญสร้างมาจะปรารภ จะได้พบพระธรรมอันอำไพ
ตรวจประสบพบบุญมูลสิริ มีสติปัญญาดวงตาใส
ได้ดวงตาเห็นธรรมอยู่รำไร เหมือนบัวใต้น้ำหล่อรอเวลา
จะปริ่มน้ำขึี้นมาเวลาบ่าย เมื่อรับสายสุริยันอันแรงกล้า
จึงเสด็จไปพลันมิทันช้า กับพระอานนท์น้องเป็นสององค์
เสด็จไปบิณฑบาตรทรงยาตรา ในพาราสาวัตถีมีประสงค์
จะโปรดมูลเศรษฐีนี้โดยตรง โดยเจาะจงกองขยะระยะทาง
เห็นเด็กข้างกองขยะตะกละหิว โดยเดินหิ้วชามกะลามาข้างข้าง
จึงถามพระอนุชามาพลางพลาง ดูรูปร่างเด็กเล่นจะเป็นไร
พระอานนท์สังเกตุเด็กเพศชาย แต่ร่างกายอัปลักษณ์น่าผลักใส
นัยน์ตาโปนปากเบี้ยวหน้าเหี่ยวไป ผมหยิกไหม้เท้าเกดูเฉโก
พระองค์ทรงปุจฉาพระอานนท์ ไปจนพ้นเด็กน้อยผู้ต้อยต่ำ
ไปบอกมูลเศรษฐีผุ้มีธรรม ว่าเธอจำพ่อบ้างหรืออย่างไร
เมื่อสักครู่เราเผอิญเดินไปปะ กองขยะกองเกลี่อนริมเรือนใหญ่
ท่านเศรษฐีอานันท์อยุ่นั่นไง เธอจงไปเรียกหาบิดาตน
ท่านมูลเศรษฐีไม่มีเชื่อ นึกแสนเบื่อนักหนาตาถลน
นั่นมันเด็กข้างทางร่างพิกล พระทศพลเจรจาไม่น่าฟัง
พระทศพลดลใจให้เด็กน้อย ค่อยเดินต้อยตามทางมาข้างหลัง
ให้รำลึกชาติได้ในภวังค์ แล้วมานั่งลงพูดเล่าบุตรตน
ว่าพ่อหรือชื่อว่านายอานันท์ เคยเป็นชั้นเศรษฐีทวีผล
อยู่่บ้านนี้นานเหลือเมื่อเป็นคน จนวายชนม์ไปเกิดกำเนิดกาย
เป็นลูกคนขอทานอยุ่บ้านโน้น แล้วก็โดนขับไล่น่าใจหาย
เพราะยากจนอนาถาน่าอับอาย แต่ไม่ตายเคราะห์กรรมกระหน่ำเรา
ให้ลำบากยากจนทุพพลภาพ มาขัดลาภตั้งแต่เกิดกำเนิดเล่า
ทำให้แม่ยากไร้มิใช่เบา ท่านจึงเอามาทิ้งเพราะชิงชัง
แต่เราก็ไม่ตายวายชีวิต เพราะกรรมติดตามแท้มาแต่หลัง
ไม่ทำบุญกับเขาสักคราวครั้ง มีแต่นั่งโกรธเกรี้ยวเพราะเหนียวทรัพย์
คนขอทานมาหาก็ด่าทอ พระมาขอสิ่งใดก็ไล่ขับ
เที่ยวไล่ตีไพร่ข้าผุ้อาภัพ เราจึงรับเวรกรรมกระหน่ำมา
มูลสิริถามว่าถ้าเป็นพ่อ คงรู้ข้อเท็จจริงทุกสิ่งสาร์
อันทรัพย์สินเพชรมณีมีราคา ท่านบิดาฝังไว้ที่ไหนมี
เด็กขอทานก็ชี้ที่ฝังทรัพย์ ในที่ลับเร้นซุกไว้ทุกที่
มูลสิริเชื่อพลันในทันที ว่าเด็กนี้คือบิดาชราวัย
ไปขุดได้ทรัพย์สินใต้ดินดอน ที่ฝังซ่อนไว้มากหาน้อยไม่
จึงเลี้ยงดุอาหารสำราญใจ รับเลี้ยงไว้ในบ้านสำราญรมย์
แต่เด็กนั้นวาสนาแสนอาภัพ ไม่ยอมรับอนุเคราะห์อันเหมาะสม
เที่ยวขอทานไปตามกรรมนิยม เที่ยวซานชมซุกซนไปจนตาย
ฝ่ายเศรษฐีมูลสิริก็ตริตรึก หวนรำลึกถึงบิดาพาใจหาย
สัตว์ทั้งหลายก่อเกิดกำเนิดกาย อยู่ในสายพระมหาสมุทัย
ล้วนเวียนว่ายตายเกิดกำเนิดมา เหมือนปวงปลาว่ายเร่ทะเลใหญ่
สังสารวัฎเฉกมหาชลาลัย เพราะผลกรรมนำให้เกิดเวียนวน
พ่อเศรษฐีเกิดมาเป็นยาจก ต้องต่ำตกเพราะไม่สร้่างทางกุศล
จึงนอบน้อมประณตพระทศพล จนเกิดผลตามมาโสดาบัน (๕๘ คำ )
๑ มกราคม ๒๕๓๓
ว่าพ่อหรือชื่อว่านายอานันท์ เคยเป็นชั้นเศรษฐีทวีผล
อยู่่บ้านนี้นานเหลือเมื่อเป็นคน จนวายชนม์ไปเกิดกำเนิดกาย
เป็นลูกคนขอทานอยุ่บ้านโน้น แล้วก็โดนขับไล่น่าใจหาย
เพราะยากจนอนาถาน่าอับอาย แต่ไม่ตายเคราะห์กรรมกระหน่ำเรา
ให้ลำบากยากจนทุพพลภาพ มาขัดลาภตั้งแต่เกิดกำเนิดเล่า
ทำให้แม่ยากไร้มิใช่เบา ท่านจึงเอามาทิ้งเพราะชิงชัง
แต่เราก็ไม่ตายวายชีวิต เพราะกรรมติดตามแท้มาแต่หลัง
ไม่ทำบุญกับเขาสักคราวครั้ง มีแต่นั่งโกรธเกรี้ยวเพราะเหนียวทรัพย์
คนขอทานมาหาก็ด่าทอ พระมาขอสิ่งใดก็ไล่ขับ
เที่ยวไล่ตีไพร่ข้าผุ้อาภัพ เราจึงรับเวรกรรมกระหน่ำมา
มูลสิริถามว่าถ้าเป็นพ่อ คงรู้ข้อเท็จจริงทุกสิ่งสาร์
อันทรัพย์สินเพชรมณีมีราคา ท่านบิดาฝังไว้ที่ไหนมี
เด็กขอทานก็ชี้ที่ฝังทรัพย์ ในที่ลับเร้นซุกไว้ทุกที่
มูลสิริเชื่อพลันในทันที ว่าเด็กนี้คือบิดาชราวัย
ไปขุดได้ทรัพย์สินใต้ดินดอน ที่ฝังซ่อนไว้มากหาน้อยไม่
จึงเลี้ยงดุอาหารสำราญใจ รับเลี้ยงไว้ในบ้านสำราญรมย์
แต่เด็กนั้นวาสนาแสนอาภัพ ไม่ยอมรับอนุเคราะห์อันเหมาะสม
เที่ยวขอทานไปตามกรรมนิยม เที่ยวซานชมซุกซนไปจนตาย
ฝ่ายเศรษฐีมูลสิริก็ตริตรึก หวนรำลึกถึงบิดาพาใจหาย
สัตว์ทั้งหลายก่อเกิดกำเนิดกาย อยู่ในสายพระมหาสมุทัย
ล้วนเวียนว่ายตายเกิดกำเนิดมา เหมือนปวงปลาว่ายเร่ทะเลใหญ่
สังสารวัฎเฉกมหาชลาลัย เพราะผลกรรมนำให้เกิดเวียนวน
พ่อเศรษฐีเกิดมาเป็นยาจก ต้องต่ำตกเพราะไม่สร้่างทางกุศล
จึงนอบน้อมประณตพระทศพล จนเกิดผลตามมาโสดาบัน (๕๘ คำ )
๑ มกราคม ๒๕๓๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น