๑๗ นิทาน
เรื่อง สังวาลเพชรคืองูเห่า
๐ มีนิทานนานสุดคร้ังพุทธกาล เป็นนิทานเรื่่องจริงทุกสิ่งสรรพ์
เมื่อพระองค์พุทธะภควัน ยังสุขสันต์โปรดสัตว์ตัดอบาย
ครั้นรุ่งอรุโณทัยในวันหนึ่ง พระองค์จึงมุ่งมั่นเดินผันผาย
ไปโปรดชาวนาหนึ่งจะถึงตาย เพราะเรื่องร้ายราชทรัพย์เขาจับมา
ถ้าแม้นมิไปช่วยคงม้วยมอด คงไม่่รอดเขาฟันบั่นเกศา
จึงชวนพระอานนท์อนุชา เดินลัดป่ามุ่งมาที่นาดอน
เห็นชาวนาทำนาอยู่ขวาหัตถ์ แล้วทรงลัดเดินกรายชายสิงขร
แล้วหยุดลงตรงระหว่างหนทางจร ดำเนินย้อนหยุดชมที่ร่มไม้
แล้วทรงใช้พระบาทสะอาดอ่อน ยกขึ้นชี้ทรัพย์ซ่อนอยุ่ใกล้ใกล้
ตรัสถามพระอานนท์ให้สนใจ ส่งเสียงให้ชาวนาน้ันได้ยิน
"อานนท์เห็นอะไรนั่นไหมเล่า นั่นงุเห่าขดนอนข้างก้อนหิน"
อานนท์เห็นสร้อยเพชรงามโสภิณ ทูลพระชินสีห์ครูว่ารู้แล้ว
ฝ่ายผัวเมียชาวนาขึ้นเงียหู เข้ามาดูงามพร้อยสร้อยเพชรแก้ว
แต่งูเห่าไม่มีเห็นวี่แวว มองทั่วแถวพฤกษีไม่มีงู
จึงไหว้พระโคดมบรมสงฆ์ เห็นพระองค์เสงี่ยมหงิมยืนยิ้มอยู่
ไม่ตรัสสิ่งใดเลยยืนเฉยดู เดินตามลู่ทางน้อยเคลือนคล้อยไป
สองชาวนาเมียผัวกลัวคนเห็น จึงซ่อนเร้นทรัพย์โคนต้นไม้ใหญ่
เอาผ้าห่อทรัพย์มิดปกปิดไว้ รีบเก็บไปสู่สถานบ้านเรือนตน
พระเจ้าพิมพิสารให้ควานหา พวกโจราร้ายแรงทุกแห่งหน
ขโมยราขทรัพย์น้ันในบัดดล ให้ออกค้นทั่วบ้านทุกชานเรือน
ตำรวจหลวงราชาผุู้สามารถ ก็เก่งกาจเหลือใจใครจะเหมือน
ค้นราชทรัพย์นั้นมิทันเดือน ตำรวจเพื่อนค้นเคหาชาวนานั้น
พบสร้อยเพชรซุกไว้ที่ในยุ้ง จำรัสรุ่งแพรวพรายดูฉายฉัน
จับผัวเมียชาวนานั้นมาพลัน จำชื่อคามามั่นห้าประการ
ถวายพระเจ้าพิมพิสารทำการซัก ว่าเข้าลักอย่างไรในสถาน
ชาวนากล่าวคำสัจปฎิญาณ ในพิมานปราสาทมิอาจมา
ไม่เคยเห็นปราสาทราชฐาน จะทำการโจรกรรมทำบาปกล้า
ไม่สามารถอาจชั้นชาวนา หมดปัญญาทำได้ไฉนกัน
แล้วเล่าตามความจริงทุกสิ่งสม พระสมณโคดมอรหันต์
เป็นพยานได้จริงทุกสิ่งอัน ในวันนั้นเดินมากับอานนท์
ทรงเอาบาทาชี้ว่านี่เจ้า มีงูเห่านอนขดขนดนั่น
แล้วเดินเลยเฉยไปทันใดพลัน สองคนฉันจึงทราบว่าลาภลอย
เก็บเอามาไว้บ้านไม่นานนัก ประมาณสักเดือนหย่อนอยู่สักหน่อย
จึงถูกจับคับใจมิใช่น้อย ต้องมาพลอยรับโทษจงโปรดปราน
พระเจ้าพิมพิสารรำคาญจิต จับคนผิดมาผูกจะถูกประหาร
ชวนอำมาตย์ออกไปมิได้นาน เข้ากราบกรานพระณตพระทศพล
ทรงเล่าเรื่องชาวนาโจรานั่น พระภควันจำได้ไม่ฉงน
ตถาคตไปโปรดช่วยโฉดชน เพื่อให้พ้นราชภัยในชีวี
ชี้ให้เขาแลดูว่างูเห่า อย่าฉวยเอาสร้อยเพชรมณีศรี
ถึงเขาโลภโฉบฉาบเห็นลาภดี ก็ยังมีคนเห็นเป็นพยาน
พระเจ้าพิมพิสารโบราณกษัตริย์ ทรงแจ้งชัดยิ่งนักมีหลักฐาน
จึงปล่อยชาวนาไปมิได้นาน พ้นประหารชีวิตปลิดชีวี
โดยพุทธฤทธาบารเมศ เข้าปกเกศชาวนาคุ้มราศี
ช่วยพระเจ้าแผ่นดินถิ่นธานี มิให้มีบาปกล้าสั่งฆ่าคน
ผู้ใดทำผิดสักนิดหน่อย ให้ทรงปล่อยชาวนาสถาผล
พระบารมีโปรดสัตว์ในบัดดล พระทศพลทรงแจ้งแทงโลกา
พระญาณสอดปลอดโปร่งโล่งตลอด ประุดุจทอดเนตรไปในใต้หล้า
จึงโปรดสัตว์ได้พลันทันเวลา พระมหากรุณาทั่วฟ้าดิน ( ๔๘ คำ )
๓ มกราคม ๒๕๓๓
พระเจ้าพิมพิสารรำคาญจิต จับคนผิดมาผูกจะถูกประหาร
ชวนอำมาตย์ออกไปมิได้นาน เข้ากราบกรานพระณตพระทศพล
ทรงเล่าเรื่องชาวนาโจรานั่น พระภควันจำได้ไม่ฉงน
ตถาคตไปโปรดช่วยโฉดชน เพื่อให้พ้นราชภัยในชีวี
ชี้ให้เขาแลดูว่างูเห่า อย่าฉวยเอาสร้อยเพชรมณีศรี
ถึงเขาโลภโฉบฉาบเห็นลาภดี ก็ยังมีคนเห็นเป็นพยาน
พระเจ้าพิมพิสารโบราณกษัตริย์ ทรงแจ้งชัดยิ่งนักมีหลักฐาน
จึงปล่อยชาวนาไปมิได้นาน พ้นประหารชีวิตปลิดชีวี
โดยพุทธฤทธาบารเมศ เข้าปกเกศชาวนาคุ้มราศี
ช่วยพระเจ้าแผ่นดินถิ่นธานี มิให้มีบาปกล้าสั่งฆ่าคน
ผู้ใดทำผิดสักนิดหน่อย ให้ทรงปล่อยชาวนาสถาผล
พระบารมีโปรดสัตว์ในบัดดล พระทศพลทรงแจ้งแทงโลกา
พระญาณสอดปลอดโปร่งโล่งตลอด ประุดุจทอดเนตรไปในใต้หล้า
จึงโปรดสัตว์ได้พลันทันเวลา พระมหากรุณาทั่วฟ้าดิน ( ๔๘ คำ )
๓ มกราคม ๒๕๓๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น